แอดมินเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่กำลังสร้างสระว่ายน้ำภายในบ้าน คงกำลังคิดหนักว่าจะเลือกระบบบำบัดน้ำแบบไหนดีใช่ไหมคะ ระหว่างสระว่ายน้ำระบบเกลือและสระว่ายน้ำระบบโอโซน เพราะที่งสองระบบนี้ดีด้วยกันทั้งคู่ แต่ไม่เป็นไรค่ะถ้าคุณคิดไม่ตก เลือกไม่ถูก รักพี่เสียดายน้อง M.T.pool ช่วยคุณได้

สระว่ายน้ำระบบโอโซน VS เกลือ ต่างกันอย่างไร

สระว่ายน้ำระบบเกลือ

ระบบเกลือของสะว่ายน้ำ เป็นระบบบำบัดน้ำที่ได้ชื่อว่า “ดีที่สุดในโลก” เพราะเป็นการบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำด้วยเกลือธรรมชาติ (NaCl = Sodium Chloride) ที่ต้องผ่านกระบวนการ Electrolytic Process ของเครื่อง Salt Chlorinator ที่ทำเกิด Sodium Chloride (NaCl) ซึ่งเป็นเกลือธรรมชาติดั้งเดิม และน้ำเกลือเมื่อใช้ในการฆ่าเชื้อโรคแล้ว จะไม่สูญหายไปไหน แต่จะเติมก็ต่อเมื่อมีการทำ Back Wash หรือการล้างเครื่องกรอง หรือเมื่อฝนตกจนมีน้ำล้นออกมาจากสระว่ายน้ำถึงจะเติมเกลือ ฉะนั้นการเติมเกลือในสระว่ายน้ำจะเติมประมาณปีละ 2-3 ครั้ง ซึ่งน้ำเกลือจะมีความเข้มข้นเพียง 0.3 % เท่านั้น

ทั้งนี้การที่ระบบบำบัดด้วยเกลือ ได้ชื่อว่าเป็นระบบที่ดีที่สุดในโลกนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างไร เพราะสระว่ายน้ำกว่า 90 % ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่ประชาชนมีสระว่ายน้ำในบ้านมากที่สุดในโลก ได้ใช้ระบบเกลือ และมีเพียง 10 % เท่านั้นที่ยังใช้ระบบคลอลีนนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้น ระบบบำบัดด้วยเกลือ ยังเป็นระบบทำอันตรายต่อสุขภาพน้อยที่สุดอีกด้วย ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนังได้เป็นอย่างดี ถึงกระนั้นสระว่ายน้ำระบบเกลือนี้ก็ยังมีข้อควรระวังอยู่ก็คือ จะต้องดูแลค่า PH ของน้ำในสระว่ายน้ำให้ดี ซึ่งน้ำในสระว่ายน้ำต้องมีค่าความเป็นด่างเพิ่มขึ้นเท่านั้น และจะไม่มีค่าความเป็นด่างเพิ่มขึ้น เพราะถ้าค่าความเป็นด่างเพิ่มขึ้นเมื่อใด เครื่อง Salt Chlorinator อาจมีปัญหาได้

สระว่ายน้ำระบบโอโซน หรือ Ozone Treatment

เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคในสระว่ายน้ำ โดยการก๊าซโอนโซน จากเครื่องอัดอากาศ (O2) มาบำบัดน้ำในสระว่ายน้ำโดยตรง เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อน้ำในสระว่ายน้ำ โดยเป็นระบบบำบัดน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เพราะไม่มีสารตกค้างอยู่ในสระว่ายน้ำ แต่ระบบโอโซนนี้จะมีระยะเวลาในการฆ่าเชื้อโรคที่สั้นกว่าระบบคลอรีนและระบบเกลือ แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบที่แพงกว่าระบบอื่น ๆ จึงทำให้นิยมใช้ระบบโอโซนกับร้านสปา มากกว่าการใช้งานกับสระว่ายน้ำโดยทั่วไป

แต่สระว่ายน้ำระบบโอโซนก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ที่ เมื่อใดก็ตามที่น้ำผ่านระบบบำบัดและถูกฆ่าเชื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้ำจะถูกปล่อยลงสระว่ายน้ำ และในขณะที่น้ำอยู่ในสระว่ายน้ำปรพมาณ 3-6 ชั่วโมง หากใครน้ำเชื้อโรคลงไปในสระ เชื้อโรคก็จะปะปนอยู่ในสระว่ายน้ำนั้น จนกว่าจะมีการนำน้ำเข้าสู่กระบวนการบำบัดครั้งต่อไป เชื้อโรคจึงจะถูกทำลายลง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าในบางประเทศได้มีการออกกฎหมาย ห้ามใช้ระบบโอโซนในสระน้ำสาธารณะเพียงระบบเดียว แต่จะต้องใช้ควบคู่ไปกับระบบเกลือหรือระบบคลอลีนด้วย

มาถึงตรงจุดนี้แล้วแอดมินเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงตัดสินใจได้แล้วนะคะ ว่าจะใช้ระบบบำบัดน้ำแบบไหนดี และเหมาะสมกับท่านมากที่สุดนะคะ

ถ้าหากใครสนใจเครื่องวัดค่าน้ำอัจฉริยะให้ติดต่อ M.T.POOL เพราะ M.T.POOL จำหน่ายเครื่องวัดค่าน้ำอัจฉริยะ และบริษัท M.T. POOL รับทำระบบต่าง ๆ ของสระว่ายน้ำ และยังจำหน่ายอุปกรณ์สระว่ายน้ำและเคมีภัณฑ์สระว่ายน้ำหลากหลายชนิดให้เลือก อาทิเช่น ปั๊มสระว่ายน้ำ ถังกรองทราย บันไดสระว่ายน้ำ วาล์ว เป็นต้น สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ 0954565559